การตรวจลงตรา หรือ การออกวีซ่า (Visa มาจากภาษาละติน หมายถึง เอกสารที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว) คือ การออกเอกสารซึ่งประเทศใดประเทศหนึ่งได้ออกให้แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่งภายใต้การพิจารณาของประเทศนั้น ๆ แต่เพียงผู้เดียว เพื่อเป็นการแสดงว่าอนุญาตให้ต่างด้าวบุคคลนั้นสามารถเดินทางเข้าประเทศผู้ออกวีซ่านั้นได้ ภายในช่วงระยะเวลาและขอบเขตของจุดประสงค์ที่ได้กำหนดไว้ในการยื่นคำร้อง ฯ โดยใช้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองขณะเดินทางเข้าประเทศผู้ออกวีซ่า
** การประทับตรวจลงตราไว้ในหนังสือเดินทาง อาจเป็นในรูปแบบแผ่นสติ๊กเกอร์ ตราประทับ หรืออาจอยู่ในรูปเอกสารอื่นใดที่ไม่ได้ประทับลงในหนังสือเดินทาง ในปัจจุบันการตรวจลงตราในบางประเทศจะออกเป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์
** ความสำคัญของการตรวจลงตรา เหตุผลที่การตรวจลงตรามีความสำคัญ คือเรื่องความปลอดภัย ทั้งในเรื่องความปลอดภัยจากการสอดแนมหรือส่งบุคคลไม่พึงประสงค์ไปยังประเทศเป้าหมาย ซึ่งประเทศต่างๆ จำเป็นต้องทำการตรวจสอบบุคคลก่อนที่จะอนุญาตให้เดินทางเข้าสู่ประเทศของตน
** ผู้ที่ถือหนังสือเดินทางไทยเดินทางไปต่างประเทศ ปัจจุบันผู้ที่ถือหนังสือเดินทางไทยสามารถเดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ ได้หลายประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า โดยแต่ละประเทศมีข้อกำหนดในการเดินทางเข้าออกที่แตกต่างกันออกไปตามประเภทหรือวัตถุประสงค์ของการเดินทาง เพราะฉะนั้นก่อนจะเดินทางไปต่างประเทศทุกครั้ง ควรตรวจสอบกับประเทศปลายทางล่วงหน้าว่า จำเป็นต้องยื่นขอวีซ่าหรือไม่ ภายใต้เงื่อนไขอะไรบ้าง ขณะที่มีบางประเทศอนุญาตให้ผู้เดินทางสามารถ ขอ Visa on Arrival (VOA) ที่ปลายทางได้เลย
** ผู้ที่ถือหนังสือเดินทางต่างชาติและมีความประสงค์จะเดินทางเข้าประเทศไทย คนต่างชาติหรือคนไทยที่ถือหนังสือเดินทางต่างชาติและมีความประสงค์จะเดินทางเข้าประเทศไทยด้วยหนังสือเดินทางต่างชาติ ต้องตรวจสอบกับทางสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่เสียก่อนว่า มีความจำเป็นต้องขอวีซ่าหรือไม่ ทั้งนี้คนบางสัญชาติสามารถเดินทางเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องมีวีซ่า หากเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ซึ่งมี 2 กลุ่มดังนี้คือ
(1) ประเทศที่ได้รับยกเว้นการตรวจลงตราเพื่อการท่องเที่ยว และสามารถพำนักอยู่ในไทยได้ไม่เกิน 30 วัน
(2) ประเทศที่มีความตกลงยกเว้นการตรวจลงตรากับประเทศไทย
** กรณีที่จำเป็นต้องได้รับการตรวจลงตราหรือได้รับวีซ่าก่อนเข้าประเทศไทย ผู้ยื่นขอฯ จะต้องยื่นเอกสารต่างๆ ตามวัตถุประสงค์ของการเดินทางเข้าประเทศไทย ผ่านทางสถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลใหญ่ของไทยซึ่งตั้งอยู่ในประเทศที่ตนมีถิ่นพำนักเสียก่อน อย่างไรก็ดี การอนุญาตให้เข้าประเทศไทย รวมทั้งการกำหนดระยะเวลาที่จะอนุญาตให้พำนักในประเทศไทย เป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ดังนั้นเมื่อได้รับวีซ่าแล้วผู้เดินทางเข้าประเทศบางรายอาจจะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศได้ หากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองพิจารณาแล้วเห็นว่าบุคคลดังกล่าวมีลักษณะหรือพฤติการณ์เป็นบุคคลต้องห้ามเข้าราชอาณาจักรตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522
ขอบคุณข้อมูลจาก Royal Thai Consulate-General, Sydney
การตรวจลงตราประเภทนี้จะออกให้แก่คนต่างด้าวที่ประสงค์จะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อการใดการหนึ่ง ดังต่อไปนี้
1. เพื่อเดินทางผ่านราชอาณาจักร (TS)
2. เพื่อเล่นกีฬา (S)
3. เป็นผู้ควบคุมพาหนะหรือเป็นคนประจำพาหนะที่เข้ามายังท่า สถานี หรือท้องที่ในราชอาณาจักร (C)
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ
การตรวจลงตราประเภทนี้จะออกให้แก่คนต่างด้าวที่ประสงค์จะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรวัตถุประสงค์อย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
• การปฏิบัติหน้าที่ทางราชการ (F)
• การติดต่อหรือประกอบธุรกิจ และการทำงาน (B)
• การลงทุนที่ได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงที่เกี่ยวข้อง (IM)
• การลงทุนหรือการอื่นภายใต้ข้อบังคับกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน (IB)
• การศึกษา ดูงาน และฝึกอบรมต่างๆ (ED)
• การปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชน (M)
• การเผยแผ่ศาสนาที่ได้รับความเห็นชอบจากกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการ (R)
• การค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์หรือฝึกสอนในสถาบันการค้นคว้า หรือสถาบันการศึกษาในราชอาณาจักร (RS)
• การปฏิบัติงานด้านช่างฝีมือผู้เชี่ยวชาญ (EX)
• การอื่น (O)
1. การเข้ามาใช้ชีวิตในบั้นปลายในฐานะผู้สูงอายุ
2. การเข้ามาในฐานะคู่ความหรือพยานสำหรับการพิจารณาดำเนินคดี
3. การปฏิบัติหน้าที่หรือภารกิจในครอบครัวคนต่างด้าว ซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อปฏิบัติหน้าที่ทางการทูต กงสุลหรือปฏิบัติภารกิจอื่น โดยเป็นบิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตร ซึ่งอยู่ในความอุปการะและเป็นส่วนแห่งครัวเรือนของบุคคล ดังกล่าว
4. การปฏิบัติหน้าที่ในฐานะคนรับใช้ส่วนตัวซึ่งเดินทางมาจากต่างประเทศเพื่อมาทำงานตามปกติ ณ ที่พักอาศัยของบุคคลในคณะผู้แทนทางการทูต หรือบุคคลซึ่งมีเอกสิทธิ์เท่าเทียมกันกับบุคคลซึ่งมีตำแหน่งทางการทูตตามความตกลงที่รัฐบาลไทยได้ทำไว้กับรัฐบาลต่างประเทศ หรือกับองค์การ หรือทบวงการระหว่างประเทศ
5. การให้ความอุปการะแก่หรือรับความอุปการะจากบุคคลสัญชาติไทย หรือบุคคลผู้มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักร โดยเป็นบิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตร ซึ่งอยู่ในความอุปการะและเป็นส่วนแห่งครัวเรือนของบุคคลดังกล่าว
6. การปฏิบัติหน้าที่ให้แก่รัฐวิสาหกิจ หรือองค์การกุศลสาธารณะ
7. การเข้ามาในราชอาณาจักรของผู้เคยมีสัญชาติไทย เพื่อเยี่ยมญาติ หรือขอกลับเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักร
8. การเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อการรักษาพยาบาล
9. การเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อเป็นผู้ฝึกสอนนักกีฬาตามความต้องการของทางราชการ
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ
การตรวจลงตราประเภทนี้จำกัดเฉพาะการขอรับการตรวจลงตราเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อปฏิบัติหน้าที่ทางการทูตหรือกงสุล หรือการปฏิบัติหน้าที่ราชการ และผู้ร้องจะต้องถือ หนังสือเดินทางทูต หรือ หนังสือเดินทางสหประชาชาติ (UN Laissez-Passer) ซึ่งเทียบเท่าหนังสือเดินทางทูตเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ
การตรวจลงตราประเภทนี้จำกัดเฉพาะการขอรับการตรวจลงตราเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราว เพื่อปฏิบัติหน้าที่ทางราชการ และผู้ร้องจะต้องถือ หนังสือเดินทางราชการ หรือ หนังสือเดินทางสหประชาชาติ (UN Laissez-Passer) ซึ่งเทียบเท่าหนังสือเดินทางราชการเท่านั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ
การตรวจลงตราประเภทอัธยาศัยไมตรีจำกัดเฉพาะการขอรับการตรวจลงตราเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
• การขอรับการตรวจลงตราของผู้ถือหนังสือเดินทางทูตหรือหนังสือเดินทางราชการ หรือหนังสือเดินทางสหประชาชาติที่เทียบเท่าหนังสือเดินทางทูตหรือหนังสือเดินทางราชการ เพื่อการอื่นนอกจากการเข้ามาประจำการในราชอาณาจักร เพื่อปฏิบัติหน้าที่การทูต หรือกงสุลหรือราชการ
• การขอรับการตรวจลงตราของผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา ซึ่งประสงค์จะเข้ามาในราชอาณาจักรในฐานะเป็นพระราชอาคันตุกะ ราชอาคันตุกะ แขกของรัฐบาล หรือหน่วยงานของรัฐ
ขอบคุณข้อมูลจาก กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ